“ออมทอง” กับ 6 เหตุผลที่คุณต้องเริ่มออมทองได้แล้ว
มีทอง
มีทอง

“ออมทอง” กับ 6 เหตุผลที่คุณต้องเริ่มออมทองได้แล้ว

1.ใช้แทนการเก็บเงิน  

ทองคำ เป็นสินทรัพย์ตัวหนึ่งที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บเงิน สำหรับผู้ที่เก็บเงินไม่อยู่ หรือผู้ที่ต้องการสร้างวินัยในการออมเงิน โดยการเก็บทองแทนการเก็บเงินนั้น ก็เหมือนกับการฝากเงินประจำกับธนาคาร แต่เปลี่ยนจากสะสมเงินเป็นสะสมทองคำแทน โดยใช้บริการ ออมทอง กับ ME THONG ให้คุณออมทอง ง่ายกว่าเดิม ซื้อ ขาย มอบทอง เปลี่ยนเป็นเงินสดทันใจ ได้ใน LINE คุณ เพียงเปิดบัญชีออมทอง กับ ME THONG และทะยอยซื้อทองสะสมทุก ๆ เดือนแบบเฉลี่ย เมื่อออมครบก็สามารถเบิกทองมาเก็บไว้ที่ตัวเองหรือขายคืนเปลี่ยนเป็นเงินสดได้  อ่านบทความ >> ออมทอง คืออะไร ทำไมใครๆก็อยากออมทอง ?


2. สำรองการเงิน ในยามฉุกเฉิน

เรื่องของ อุบัติเหตุ , ปัญหาทางด้านกฎหมาย ที่อาจทำให้ต้องใช้เงินจำนวนมาก จนส่งผลให้เงินที่เก็บมาหมดไป ,หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ ค่าเงินลดลง เช่น ปัญหาการเมือง , อัตราเงินเฟ้อ , เศรษฐกิจประเทศย่ำแย่ ฯลฯ ทำให้เงินเก็บที่คาดว่าจะพอใช้ในอนาคต ก็อาจไม่พอ การที่เรามีการสำรองการเงินด้วยการออมทอง ทำให้สามารถมีเงินไหลเวียนในช่วงขัดสนฉุกเฉินได้ 


3.ให้เป็นของขวัญคนสำคัญในเทศการณ์วันสำคัญ 

ทองคำ เป็นสมบัติที่มีมูลค่า หลายคนเก็บทองไว้ก็เพื่อเป็นมรดก ตกทอดให้แก่ลูกหลาน , เอาไว้เป็นทุนสำรองการเงิน หรือให้เป็นของขวัญในวันสำคัญ ๆ เช่น วันแต่งงาน , วันสงกรานต์ , วันตรุษจีน , วันรับปริญญา โดยทองคำที่ซื้อให้ก็มีทั้ง ทองคำแท่ง และ ทองรูปพรรณ อย่าง สร้อยทอง,แหวนทอง,กำไลทอง,จี้ทอง ฯลฯ , ซึ่งลูกหลานก็นำทองเหล่านี้ไปต่อยอดทางการเงินอีกทอดหนึ่งได้ 


4. ทุนอีกประเภทในการทำธุรกิจ 

ราคาส่วนต่าง คือสิ่งที่ทำให้ทองคำได้รับความสนใจเก็บไว้เพื่อลงทุน , มีหลายคนที่เกษียณแล้วหันมาทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เกิดรายได้ โดยบางครั้งอาจต้องใช้ทุนไม่น้อย เงินที่เก็บมาอาจไม่พอ หรือไม่อยากกู้เงินสร้างหนี้ ทำให้ ทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่ซัพพอร์ตในเรื่องนี้ได้


5. ป้องกัน อัตราเงินเฟ้อ

“อัตราเงินเฟ้อ “ ทำให้ เงิน มีมูลค่าลดลง ซึ่งหมายถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ จะมีราคาแพงขึ้น จำต้องใช้เงินซื้อมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเงินเก็บที่มีอยู่อาจไม่พอใช้จ่ายในยามเกษียณ สำหรับ ทองคำ จากสถิติที่ผ่านมา สามารถป้องกันความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อได้ดี เพราะราคาทอง ไม่เปลี่ยนไปตามราคาสินค้าอื่น ๆ , ยิ่งเงินเฟ้อสูง ราคาทองก็สูงไปด้วย


6. กระจายความเสี่ยง 

การเก็บสำรอง ทองคำ เอาไว้ เพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตทางการเงิน,เหตุการณ์ฉุกเฉินทั่วโลก ซึ่งคนวัยเกษียณจำนวนไม่น้อยที่ซื้อทองเก็บไว้เพื่อเป็นการลงทุน และกระจายความเสี่ยงของสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น  , พันธบัตร  ที่หากเกิดวิกฤตสินทรัพย์ที่ลงทุนตัวใดตัวหนึ่งขาดทุน จะได้มี ทองคำ เอาไว้เป็นหลักประกัน เนื่องจาก ราคาทอง ไม่เปลี่ยนไปตามราคาสินค้าอื่น ๆ , ยิ่งเงินเฟ้อสูง ราคาทองก็ยิ่งสูง 


สิ่งหนึ่งที่ทำให้ ทองคำ ยังเป็นที่นิยม คือ ความต้องการใช้ทองคำในด้านต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะด้านการลงทุนที่นักลงทุนรายใหญ่รายย่อยหันมาถือครองทองคำกันมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงของค่าเงิน , และ ราคาทอง ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการ ( Demand ) ซึ่ง ไม่ใช่แค่ ทองรูปพรรณ เท่านั้นที่คนไทยนิยมซื้อเก็บ แต่ ทองคำแท่ง ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน , คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ซื้อ ทองแท่ง เก็บไว้ เพราะมีส่วนต่างของ ราคาขายออก และ ราคารับซื้อ น้อยกว่า ทองรูปพรรณ รวมถึงค่าบล็อค,ค่ากำเหน็จ อย่างที่เรา ๆ รู้กันดีว่าค่อนข้างต่างกันเยอะ โดย ทองแท่ง จะซื้อถูก ขายแพง กว่ามาก แต่ไม่ว่าจะเก็บทองไว้เพื่อใครราคาทองมักมีราคาที่เสถียรและเหมาะแก่การลงทุนระยะยาว 

METHONG แพรตฟอร์มออนไลน์ ที่ให้คุณออมทอง ง่ายกว่าเดิม ซื้อ ขาย มอบทอง เปลี่ยนเป็นเงินสดทันใจ ได้ใน LINE คุณ เพียงเปิดบัญชีออมทอง กับ ME THONG คือทะยอยซื้อทองสะสมทุก ๆ เดือน จะได้ราคาแบบเฉลี่ย เมื่อออมครบอยากจะเบิกทองมาเก็บไว้ที่ตัวเองหรือขายคืนเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ >> คลิกที่นี่เพื่อเปิดบัญชีออมทอง กับ ME THONG

แท๊กของบทความนี้

แป่งปันบทความนี้ :

เรื่องอื่นๆ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ลูกค้า ไม่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลที่มีการทำธุรกรรมกับบริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หุ้นส่วน ตัวแทน พนักงาน เจ้าหน้าที่ และ/หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหรือบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท บุคคลธรรมดาทั่วไป เช่น ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในการทำธุรกรรม การให้และ/หรือการรับบริการ การติดต่อ และการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า เช่น

  1. ข้อมูลระบุตัวบุคคล ชื่อนามสกุล เพศ วัน-เดือน-ปีเกิด อายุ สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว สัญชาติ ประเทศที่พำนัก ลายมือชื่อ
  2. ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD อื่นๆ เป็นต้น
  3. ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ชื่อหรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น LINE ID
  4. ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการหรือกาประกอบอาชีพ  เช่น ประเภทธุรกิจ  ประเภทอาชีพ  ตำแหน่ง อายุงาน เอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจหรือประกอบอาชีพ
  5. ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม   เลขที่บัญชีเงินฝาก รายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝาก เลขบัตรเครดิต/เดบิต  ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และรายจ่าย  ข้อมูลสำหรับประเมินความเสี่ยง
  6. ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน  หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ และข้อมูลอื่นๆ              
  7. บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับบริษัทที่เกี่ยวข้องการทำธุรกรรมซื้อขาย  รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log/Chat – Bot  ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อดำเนินการตามความยินยอมของท่านและ/หรือเพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ตามแต่ความสัมพันธ์และการทำธุรกรรมของท่าน ดังต่อไปนี้

  1. บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ตัวแทนของบริษัท  ผู้รับจ้างช่วงงานต่อหรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อประกอบธุรกิจแทนบริษัท  ทางการตลาด ส่งเสริมการขาย  การประชาสัมพันธ์  การเสนอหรือสนับสนุนการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน รวมถึงผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ เคลื่อนย้าย และจัดส่งสินค้า ผู้จัดการด้านแคมเปญและการจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการจัดเก็บข้อมูลบนเซอร์เวอร์ที่เชื่อมต่อออนไลน์
  2. บริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของท่านไว้เฉพาะบุคลากร หรือพนักงานของบริษัทที่มีความจำเป็นต้องรับทราบข้อมูลของท่าน เพื่อการให้บริการทางธุรกรรมหรือบริการอำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่าน เพื่อให้ท่านได้รับบริการดังกล่าว อย่างเหมาะสมและดีที่สุดจากบริษัท
  3. บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้ หากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใดๆ หรือต้องคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5 – 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี จัดเก็บไว้ตามกฎหมาย 10 ปี นับแต่ยุติความสัมพันธ์ เป็นต้น

ท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลของท่านที่บริษัทเก็บรักษาไว้หรือขอรับสำเนาข้อมูลได้  
  2. สิทธิให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเอง
  3. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  4. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
  5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว
  6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  7. สิทธิขอถอนความยินยอม  หากท่านได้ให้ความยินยอมให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด

99-101 ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

เปิดทำการ จันทร์ – ศุกร์ : เวลา 9.15 – 16.00 น.

Call Center: 02-017-0777

Gold Trading Hotline: 02-017-0770

Fax Center: 02-222-7100

E-Mail: [email protected]

บริษัทอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของบริษัท ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากท่าน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบาย เวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.methong.co/privacy-policy เพื่อให้ท่านทราบแนวทางที่บริษัทใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม