Previous slide
Next slide

ราคาทองคำวันนี้

ประเภท

รับซื้อ

ขายออก

ทองรูปพรรณ
96.5%

31,850

31,950

ทองคำแท่ง
96.5%

31,850

31,850

Thai Gold
96.5% (g)

1,850

1,850

Partners

ทองคำ

GOLD 96.5% 

วางหลักประกัน
6,000 บาท

GOLD 99% 

วางหลักประกัน
80,000 บาท

Small Bar

วางหลักประกัน

80,000 บาท

Small Gram

วางหลักประกัน

80,000 บาท

สินทรัพย์อื่นๆ

Chanel Classic

เริ่มต้น

329,900 บาท

อสังหาริมทรัพย์

เริ่มต้น

1 ล้านบาท 

Rolex Cosmograph Daytona

เริ่มต้น

1,200,000 บาท

หุ้น

เริ่มต้น

500 บาท

ลงทุน Chanel Classic

  • 3 เหตุผลที่คุณอาจต้องพิจารณาในการลงทุนในทองมากกว่า Chanel Classic:

    1. ความเสถียรภาพในระยะยาว: ทองมีความเสถียรภาพสูงเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าที่เกิดขึ้นตลอดเวลาโดยไม่ได้รับผลกระทบจากแรงขับเคลื่อนหรือแนวโน้มในตลาดอย่างมาก ดังนั้น การลงทุนในทองอาจเป็นวิธีที่นิยมในการปกป้องมูลค่าในระยะยาว

    2. ความปลอดภัย: ทองเป็นทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงที่น้อยกว่าการลงทุนในกระเป๋า Chanel Classic ที่อาจมีความเปลี่ยนแปลงในความนิยมและมูลค่าของตลาดได้ ทองมีความเป็นที่ยอมรับในตลาดทั่วโลกและถูกกำหนดค่าตามนิยมในการลงทุน

    3. การกระจายผล: การลงทุนในทองช่วยให้คุณสามารถกระจายการลงทุนของคุณในกลุ่มทรัพย์สินที่แตกต่างกันได้ นอกจากนี้ ทองยังมีความสามารถในการสร้างการคุ้มครองต่อความเสี่ยงทางเงินลงทุนในสถานการณ์ที่ตลาดทรัพย์สินอื่น ๆ มีปัญหาหรือความไม่แน่นอน

    อย่างไรก็ตาม การลงทุนทั้งในทองและกระเป๋า Chanel Classic มีข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณาในแง่มุมทางการลงทุนของคุณ ควรพิจารณาจากเป้าหมายการลงทุน

ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 

3 เหตุผลที่คุณอาจต้องพิจารณาในการลงทุนในทองมากกว่าอสังหาริมทรัพย์:

  1. ความเสถียรภาพ: ทองมีความเสถียรภาพสูงและมักเป็นทรัพย์สินที่คงค่าในระยะยาว ตลาดทองมีความเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ทำให้เป็นทางเลือกที่นิยมในการปกป้องมูลค่าและลดความเสี่ยง

  2. การลงทุนทรัพย์สินที่ทันสมัย: ทองเป็นทรัพย์สินที่เข้าใจง่ายและมีความนิยมมากในตลาดโลก การลงทุนในทองให้คุณมีโอกาสเข้าถึงการลงทุนในทรัพย์สินที่ทันสมัยและก้าวไปอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ

  3. การคุ้มครองต่อการแข่งขันและความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจ: ทองมีความสามารถในการคุ้มครองต่อการแข่งขันและความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจ ในช่วงเวลาที่ตลาดทรัพย์สินอื่นอาจประสบปัญหาหรือความเสี่ยงสูงขึ้น การลงทุนในทองอาจช่วยลดความเสี่ยงและปกป้องค่าสินทรัพย์ของคุณ

อย่างไรก็ตาม การลงทุนทั้งในทองและอสังหาริมทรัพย์มีข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณา ควรพิจารณาตามเป้าหมายการลงทุนและสถานการณ์ปัจจุบัน

ลงทุน นาฬิกา Cosmograph Daytona

  • 3 เหตุผลที่คุณอาจพิจารณาในการลงทุนในทองมากกว่านาฬิกา Cosmograph Daytona:

    1. ความเสถียรภาพในระยะยาว: ทองมีความเสถียรภาพสูงและมักเป็นทรัพย์สินที่คงค่าในระยะยาว ในขณะที่นาฬิกา Cosmograph Daytona เป็นผลิตภัณฑ์ด้านแฟชั่นและมีความนิยมที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว การลงทุนในทองอาจช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในความนิยมและค่าสินค้า

    2. ความปลอดภัย: ทองเป็นทรัพย์สินที่มีความเปลี่ยนแปลงน้อยกว่านาฬิกา Cosmograph Daytona ที่มีความเปลี่ยนแปลงในความนิยมและมูลค่าได้ การลงทุนในทองมีความเสี่ยงที่น้อยกว่าในการลงทุนในนาฬิกา

    3. ความเป็นสะท้อนของเศรษฐกิจโลก: ทองมักเป็นทรัพย์สินที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจโลก การลงทุนในทองอาจช่วยให้คุณป้องกันตัวจากความไม่แน่นอนในตลาดทรัพย์สินและการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ในขณะที่นาฬิกา Cosmograph Daytona เป็นทรัพย์สินที่มีความเป็นสิ่งพิเศษและมีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนาฬิกาที่มีปัจจัยอื่นที่มีผลต่อมูลค่า

ลงทุนในหุ้น

  • 3 เหตุผลที่คุณอาจพิจารณาในการลงทุนในทองมากกว่า หุ้น

    1. ความคงทนและความน่าเชื่อถือ: ทองคำมักถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความคงทนและเป็นมาตรฐานที่เชื่อถือได้ มีประวัติการใช้งานยาวนานและมีความเสถียรในตลาดการซื้อขายทองคำ

    2. การคุ้มครองความมั่งคั่ง: การลงทุนในทองคำเป็นวิธีหนึ่งในการคุ้มครองความมั่งคั่ง ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามเวลา และมีค่าตลาดสูง การลงทุนในหุ้นอาจมีความเสี่ยงที่สูงกว่า

    3. ความกระจายความเสี่ยง: การลงทุนในทองคำช่วยในการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน หากตลาดหุ้นลดลงหรือเกิดความผันผวนมาก ราคาทองคำมักมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น เป็นวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยงในการลงทุน

ลงทุนในทองคำ

  • 5 เหตุผลที่คุณอาจพิจารณาในการลงทุนในทอง :

    1. ค่าเพิ่มที่คงที่: ทองมักเป็นทรัพย์สินที่คงค่าและมีความเสถียรภาพสูงในระยะยาว มูลค่าของทองมักไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงในตลาดอื่น การลงทุนในทองมีโอกาสสูงในการคงค่าหรือเพิ่มมูลค่าในระยะยาว

    2. การคุ้มครองต่อความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจ: ทองมีความเป็นสิ่งที่คุ้มครองต่อความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจ ในสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นหรือตลาดอสังหาริมทรัพย์แสดงอาการไม่แน่นอนหรือลดลง เส้นทางการลงทุนในทองอาจช่วยลดความเสี่ยงและปกป้องมูลค่าของคุณ

    3. การเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนที่ดี: การลงทุนในทองสามารถเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนที่ดี การกระจายการลงทุนของคุณในหลายสินทรัพย์สินชนิดต่างๆ เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือตราสารการเงิน จะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างสมดุลในพอร์ตการลงทุนของคุณ

    4. ความเป็นเงินสดและความสะดวกสบาย: ทองมีความเป็นเงินสดและมีความสะดวกสบายในการแลกเปลี่ยน คุณสามารถซื้อและขายทองได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้ ทองยังเป็นสินทรัพย์ที่รับรู้และยอมรับในตลาดทั่วโลก

    5. การลงทุนเพื่อการคุ้มครอง: การลงทุนในทองสามารถใช้เพื่อการคุ้มครองค่าเงินหรือการลงทุนอื่นๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อมูลค่าเงินตกลง ทองมักมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าขึ้น เป็นต้น

          4 วิธีลงทุนทองง่ายๆ ที่บ้าน !

              1. ลงทะเบียน

              2. ยื่นเอกสาร 

              3. วางหลักประกัน

              4. ซื้อ – ขาย ทองคำออนไลน์ ! 

บทความล่าสุด

Blog

ซื้อทองออนไลน์ ยังไงไม่ให้โดนหลอก

ref. Cover ( Ref. Cover / ภาพมิจฉาชีพ ขึ้นตัวเตือนภัย เน้นสีแดง) ซื้อทองออนไลน์ ยังไง? ไม่ให้โดนหลอก ทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่าการสั่งซื้อของผ่านทางโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้น เพราะทั้งเรื่องความสะดวกรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องเดินทาง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสั่งซื้อ หรือเลือกชมสินค้าได้แบบตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีเวลาเปิดปิด และที่สำคัญ เรายังมีโอกาสที่ได้เจอกับของที่ถูกใจมากกว่าการเดินเลือกซื้อสินค้าตามร้านค้าทั่วไป ยิ่งมาเกิดช่วงโควิดที่ทุกคนต้องถอยห่าง ล็อคดาวน์อยู่ในบ้านของตนเอง

อ่านต่อ >
Blog

มือใหม่ซื้อทอง ต้องอ่าน 7 เรื่องสำคัญที่นักลงทุนป้ายแดงต้องรู้

มือใหม่หัด ซื้อทอง ต้องอ่าน! เพราะทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ในฐานะนักลงทุนมือใหม่ป้ายแดงอย่างเราจะลงทุนแบบมั่ว ๆ ซั่ว ๆ ไม่ได้ ต้องศึกษาและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน เพื่อความคุ้มค่าสูงสุดในการลงทุน โดยราคาทองคำในช่วงปีที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยแตะไปถึงบาทละ 30,000 บาท เมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่แนวโน้มของราคาทองคำในปี 2556 เฉลี่ยอยู่ที่บาทละ 24,581.48 บาท การซื้อทองเพื่อลงทุนจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า เมื่อเทียบกับการถือเงินสดไว้เฉย ๆ

อ่านต่อ >

รู้ได้อย่างไรว่าทองที่ซื้อ มาจากบริษัท ผู้ผลิตทองคำ ที่เชื่อถือได้

(Cover ref. / อยากให้ภายในภาพมีทองคำแท้ / มีโลโก้ SCT / สมาคมค้าทองคำ) เคยสงสัยมั้ย? ว่าเราจะรู้ได้ยังไง ว่าทองที่เรามีอยู่หรือซื้อมา มาจากบริษัท ผู้ผลิตทองคำ ที่เชื่อถือได้จริง ๆ การรู้จัก หรือรู้ได้ว่าทองที่เราซื้อ หรือกำลังจะซื้อมาจาก ผู้ผลิตทองคำ เจ้าไหน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณมั่นใจในคุณภาพ และปริมาณของทองคำที่คุณจะได้รับแบบสบายใจ ไม่ว่าจะซื้อด้วยตัวเองผ่านทางหน้าร้านค้าทอง หรือจะสั่งซื้อทองออนไลน์ก็ตาม นอกจากเรื่องของการระวังตัวเองจากมิจฉาชีพ

อ่านต่อ >

Q & A

คำถามที่พบบ่อย

  • 3 ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อลงทุนในทองคำ:

    1. ความผันผวนในราคา: ราคาทองคำสามารถผันผวนได้มาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาสั้น อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำสามารถขึ้นหรือลงได้ตามปัจจัยตลาดและเงื่อนไขเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนได้รับกำไรหรือขาดทุน

    2. ความสามารถในการจัดการความปลอดภัย: การลงทุนในทองคำต้องพิจารณาถึงการจัดการและรักษาความปลอดภัยของทองคำที่มีค่า ต้องรู้จักเก็บรักษาทองคำให้ปลอดภัยจากการสูญหาย การขโมย หรือความเสื่อมสภาพ

    3. ผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ: ราคาทองคำสามารถได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ อาทิเช่น การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ย นโยบายการเงิน หรือปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อความคุ้มค่าและความน่าไว้วางใจในการลงทุนในทองคำ

  • ค่าซื้อขาย: การซื้อขายทองคำอาจมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต้องจ่าย เช่น ค่าส่งทองคำหรือค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายที่ออนไลน์หรือผ่านตลาดทองคำ

  • ค่าเก็บรักษา: หากคุณเลือกเก็บรักษาทองคำในที่ปลอดภัย เช่น ในโกดังทองคำ อาจมีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บรักษาทองคำ เช่น ค่าเช่าโกดังหรือค่าประกันความเสี่ยง

  • ภาษี: การลงทุนในทองคำอาจมีผลต่อภาษีที่ต้องเสีย ซึ่งอาจเป็นเป็นไปได้ในระหว่างการถือครองทองคำหรือขายทองคำและอาจแตกต่างไปในแต่ละประเทศ

ในระยะยาว ตลาดทองคำสามารถแสดงความผันผวนและเปลี่ยนแปลงได้ นี่เป็นสาเหตุที่ทองคำถูกพิจารณาว่าเป็นทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงในการลงทุน นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดทองคำมีความผันผวนสูงและเปลี่ยนแปลง:

  1. ตลาดสินค้า: ตลาดทองคำได้รับผลกระทบจากตลาดสินค้าโลกทั้งในด้านอุตสาหกรรมและการผลิต ความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลก เช่น การผลิตทองคำและความต้องการของผู้บริโภคสามารถส่งผลต่อราคาทองคำได้

  2. นโยบายเศรษฐกิจ: นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล การลงทุนของธนาคารกลาง และองค์กรระดับโลกสามารถมีผลต่อราคาทองคำได้ การเปลี่ยนแปลงในนโยบายเช่นเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย หรือนโยบายเงินประมาณสามารถกระทบต่อตลาดทองคำได้

  3. แรงขับเคลื่อนการลงทุนอื่น ๆ: ในบางกรณี การเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือสกุลเงินอาจส่งผลต่อการลงทุนในทองคำ นักลงทุนอาจเลือกลงทุนในทองคำเมื่อมีความไม่มั่นคงในสินทรัพย์อื่น ๆ

  4. ภาวะเศรษฐกิจสากล: สภาวะเศรษฐกิจโลก เช่น วิกฤตการเงิน วิกฤตการเมือง หรือภาวะการเงินของประเทศสามารถส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงและความผันผวนในตลาดทองคำ

  5. ความต้องการของผู้บริโภค: ความต้องการของผู้บริโภคสามารถส่งผลต่อการซื้อขายทองคำ การเพิ่มหรือลดความต้องการของทองคำอาจมีผลต่อราคาในตลาด

การลงทุนในทองเหมาะสำหรับผู้ที่มีลักษณะดังนี้:

  1. ผู้ลงทุนที่มุ่งหวังความเสถียรภาพ: การลงทุนในทองถือเป็นทรัพย์สินที่มีความเสถียรภาพสูงในระยะยาว ทองคำมีความต้านทานต่อผลกระทบของความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเงิน

  2. ผู้ลงทุนที่ต้องการความหลากหลายในพอร์ตการลงทุน: การมีการแบ่งแยกพอร์ตการลงทุนให้ครอบคลุมระหว่างทองคำและสินทรัพย์อื่น ๆ สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการผันผวนของตลาดทั่วไป

  3. ผู้ลงทุนที่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างมูลค่าระยะยาว: การลงทุนในทองคำมีศักยภาพในการสร้างมูลค่าในระยะยาว ราคาทองคำมีโอกาสเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคและผู้ลงทุนที่สูงขึ้น

  4. ผู้ลงทุนที่ต้องการการปกป้องกำไร: ทองคำมักถูกมองเป็นสินทรัพย์ที่เก็บกำไรในสถานการณ์ที่ตลาดและเศรษฐกิจไม่แน่นอน การลงทุนในทองคำอาจช่วยปกป้องกำไรจากการลงทุนอื่น ๆ ที่มีความไม่มั่นคง

  5. ผู้ลงทุนที่ต้องการการคุ้มครองตัวเองจากการแทรกแซง: การลงทุนในทองคำสามารถให้ความคุ้มครองต่อความแทรกแซงจากแรงงานตลาดหรือองค์กรระดับรัฐบาล ทองคำมีความเป็นสิริมงคลและสามารถจัดเก็บได้ในรูปแบบที่ไม่ต้องอาศัยสถาบันทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนควรพิจารณาตามสถานการณ์และวัตถุประสงค์การลงทุนของแต่ละบุคคล และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหรือที่ปรึกษาทางการลงทุนเพื่อข้อมูลและคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์และเป้าหมายการลงทุนของคุณ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ลูกค้า ไม่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลที่มีการทำธุรกรรมกับบริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หุ้นส่วน ตัวแทน พนักงาน เจ้าหน้าที่ และ/หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหรือบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท บุคคลธรรมดาทั่วไป เช่น ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในการทำธุรกรรม การให้และ/หรือการรับบริการ การติดต่อ และการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า เช่น

  1. ข้อมูลระบุตัวบุคคล ชื่อนามสกุล เพศ วัน-เดือน-ปีเกิด อายุ สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว สัญชาติ ประเทศที่พำนัก ลายมือชื่อ
  2. ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD อื่นๆ เป็นต้น
  3. ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ชื่อหรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น LINE ID
  4. ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการหรือกาประกอบอาชีพ  เช่น ประเภทธุรกิจ  ประเภทอาชีพ  ตำแหน่ง อายุงาน เอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจหรือประกอบอาชีพ
  5. ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม   เลขที่บัญชีเงินฝาก รายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝาก เลขบัตรเครดิต/เดบิต  ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และรายจ่าย  ข้อมูลสำหรับประเมินความเสี่ยง
  6. ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน  หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ และข้อมูลอื่นๆ              
  7. บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับบริษัทที่เกี่ยวข้องการทำธุรกรรมซื้อขาย  รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log/Chat – Bot  ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อดำเนินการตามความยินยอมของท่านและ/หรือเพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ตามแต่ความสัมพันธ์และการทำธุรกรรมของท่าน ดังต่อไปนี้

  1. บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ตัวแทนของบริษัท  ผู้รับจ้างช่วงงานต่อหรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อประกอบธุรกิจแทนบริษัท  ทางการตลาด ส่งเสริมการขาย  การประชาสัมพันธ์  การเสนอหรือสนับสนุนการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน รวมถึงผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ เคลื่อนย้าย และจัดส่งสินค้า ผู้จัดการด้านแคมเปญและการจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการจัดเก็บข้อมูลบนเซอร์เวอร์ที่เชื่อมต่อออนไลน์
  2. บริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของท่านไว้เฉพาะบุคลากร หรือพนักงานของบริษัทที่มีความจำเป็นต้องรับทราบข้อมูลของท่าน เพื่อการให้บริการทางธุรกรรมหรือบริการอำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่าน เพื่อให้ท่านได้รับบริการดังกล่าว อย่างเหมาะสมและดีที่สุดจากบริษัท
  3. บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้ หากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใดๆ หรือต้องคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5 – 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี จัดเก็บไว้ตามกฎหมาย 10 ปี นับแต่ยุติความสัมพันธ์ เป็นต้น

ท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลของท่านที่บริษัทเก็บรักษาไว้หรือขอรับสำเนาข้อมูลได้  
  2. สิทธิให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเอง
  3. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  4. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
  5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว
  6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  7. สิทธิขอถอนความยินยอม  หากท่านได้ให้ความยินยอมให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด

99-101 ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

เปิดทำการ จันทร์ – ศุกร์ : เวลา 9.15 – 16.00 น.

Call Center: 02-017-0777

Gold Trading Hotline: 02-017-0770

Fax Center: 02-222-7100

E-Mail: [email protected]

บริษัทอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของบริษัท ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากท่าน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบาย เวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.methong.co/privacy-policy เพื่อให้ท่านทราบแนวทางที่บริษัทใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม