4.Master Page : วางหลักประกัน

วางหลักประกัน ซื้อขายทองคำ
ครั้งแรกต้องทำอย่างไร ?

การวางหลักประกัน ซื้อขายทองคำ T+3 คืออะไร ?
                T ย่อมาจาก Today 
คือ กระบวนหลักการในการซื้อขายทองคำ ที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนทองคำ และช่วยยืดระยะเวลาเพิ่มเครดิตในการชำระราคา หรือ ส่งมอบทองคำ ให้การลงทุนทองคำของคุณคล่องตัว โดยปัจจุบันกำหนดให้การชำระราคา หรือ ส่งมอบหลักทรัพย์ทองคำ ต้องดำเนินการใน 3 วันทำการ นับจากวันที่ซื้อขาย (T+3)

ประโยชน์ของวางหลักประกัน ซื้อขายทองคำ 

เพิ่มความสะดวกความคล่องตัว

ช่วยเพิ่มความสะดวกความคล่องตัวในการซื้อขายและการทำธุรกรรมต่อยอดอื่น ๆ โดยนักลงทุนสามารถหมุนเวียนเงินเพื่อหาผลตอบแทนได้เร็วขึ้น

ได้เครดิตยืดเวลาชำระเงิน

ลูกค้าได้เครดิตช่วยยืดระยะเวลาชำระและบริหารพอร์ตการลงทุนทองได้อย่างลงตัว

ลดความเสี่ยงในการลงทุน

ช่วยป้องกันความเสี่ยงของบัญชี ระดับหลักประกันขั้นต่ำในบัญชี จะช่วยผู้ลงทุนหากยอดเงินคงเหลือในบัญชีลดลงต่ำกว่าระดับนี้ (70% ของ IM)

ขั้นตอนการวางหลักประกัน หลังเปิดบัญชี

เลือกประเภทการลงทุนที่ต้องการ

ชำระเงินวางหลักประกัน
ตามประเภทการลงทุน

ซื้อขาย ทองคำออนไลน์

จอง/รับ ทองคำ ได้ทันที

ขั้นตอนการวางหลักประกัน หลังเปิดบัญชี

เลือกประเภทการลงทุนที่ต้องการ

รายละเอียด >

ชำระเงินวางหลักประกัน

รายละเอียด >

ซื้อขายทองออนไลน์

วิธีซื้อ-ขาย ทอง >

จอง/รับ ทองคำ
ได้ทันที

วิธีจองทอง/รับทอง >

การ ซื้อขายทองคำแท่ง ออนไลน์ ในครั้งแรก ลูกค้าจำเป็นต้องวางหลักประกันก่อน เพื่อเป็นหลักประกันในการเริ่มต้นทำรายการซื้อขายทองคำแท่ง ในครั้งแรกก่อนเริ่ม คำสั่งซื้อขายแรก หลังจากนั้น คำสั่งซื้อขายต่อไปไม่ต้องวางหลักประกันอีก ยกเว้นต้องการเพิ่มวงเงินหลักประกันในการซื้อขาย หรือ มีการถอนเงินหลักประกันออกไปก่อนหน้านี้

เมื่อลูกค้าโอนเงินชำระค่าหลักประกัน เข้าบัญชีธนาคารของบริษัทฯ เรียบร้อยแล้ว กรุณาส่งหลักฐานการชำระค่าหลักประกันผ่านทาง Line Official : @scttradeplus หรือทาง E-mail: [email protected]

สำหรับการลงทุนทองคำแท่ง 96.5% เงื่อนไขปริมาณขั้นต่ำที่สามารถซื้อขายได้
วางเงินหลักประกัน เงื่อนไขการซื้อขาย (นน.)

  • 6,000 บาท สามารถซื้อขายได้ 5 บาททองคำ
  • 12,000 บาท สามารถซื้อขายได้ 10 บาททองคำ
  • 18,000 บาท สามารถซื้อขายได้ 15 บาททองคำ
  • 24,000 บาท สามารถซื้อขายได้ 20 บาททองคำ

ลูกค้าสามารถโอนเงินหลักประกันเข้าบัญชีธนาคาร ผ่านบัญชี 6 ธนาคาร

  • ชื่อบัญชี บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมเดตี้ส์ เทรด จำกัด

  • ​ธนาคารไทยพาณิชย์ (สาขาตรีเพชร) เลขบัญชี 066-2-80991-1

  • ​ธนาคารกรุงเทพ (สาขาสามยอด) เลขบัญชี 150-0-77588-5

  • ​ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (สาขาสามยอด) เลขบัญชี 128-1-18247-0

  • ​ธนาคารทหารไทย (สาขาตรีเพชร) เลขบัญชี 092-2-15914-0

  • ​ธนาคารกรุงไทย (สาขาสี่แยกพระยาศรี) เลขบัญชี 045-0-10514-8

     

ลูกค้าที่ต้องการ จะขอถอนหลักประกัน

  • ส่งใบคำขอถอน “ก่อนเวลา 16.00 น. ลูกค้าจะได้รับเงินภายใน 17.30 น. ของ T+1

  • ส่งใบคำขอถอน “หลังเวลา 16.00 น. ลูกค้าจะได้รับเงินภายใน 17.30 น. ของ T+2

  • กรณี ต้องการถอนหลักประกันเพื่อ “ปิดบัญชีซื้อขาย” ลูกค้าจะได้รับเงินหลักประกันคืนต่อเมื่อลูกค้าได้ดำเนินการรับทอง-ส่งทองและรับเงิน-จ่ายเงินกับบริษัทฯ จนครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่เกิน 17.30 น. ของ T+3

  • แจ้งความจำนงถอนทองคำ กับบริษัทฯ โทร.02-017-0777 หรือ ADD LINE: @scttradeplus (https://lin.ee/qTIdf2d)

ช่วยให้การลงทุนทองคำเป็นเรื่องง่าย

ปรึกษาฟรี! กับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของเราได้ทันที

Call Center

Q & A

คำถามที่พบบ่อย

  • ช่วยป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนทองคำแก่นักลงทุน และเป็นขั้นตอนในการเริ่มต้นกระบวนการ ซื้อขาย ทองคำ ออนไลน์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มเครดิตในการชำระเงินตามมาตรฐานของบริษัท ที่สามารถดำเนินการได้ภายใน 3 วัน หลังจากคำสั่งซื้อขาย ทองคำ ออนไลน์
  • สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อปรับเปลี่ยน

*Initial one-to-one consultation, Health & Fitness Assasments Bespoke training program planing, Custom Nutrition plan & recipes. Weekly Progress Reviews

สามารถเพิ่มได้ จาก T+3 เป็น T+7 ทั้งนี้ต้องเป็นตามไปเงื่อนไขและนโยบายที่บริษัทกำหนด ดังนี้

  • ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ ซื้อ-ขาย ทองคำออนไลน์ ตามระยะเวลาเครดิตที่กำหนดมาก่อน
  • มียอดสะสม ซื้อ-ขาย ทองคำออนไลน์ ตามที่บริษัทกำหนด

แท๊กของบทความนี้

แป่งปันบทความนี้ :

เรื่องอื่นๆ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ลูกค้า ไม่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลที่มีการทำธุรกรรมกับบริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หุ้นส่วน ตัวแทน พนักงาน เจ้าหน้าที่ และ/หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหรือบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท บุคคลธรรมดาทั่วไป เช่น ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในการทำธุรกรรม การให้และ/หรือการรับบริการ การติดต่อ และการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า เช่น

  1. ข้อมูลระบุตัวบุคคล ชื่อนามสกุล เพศ วัน-เดือน-ปีเกิด อายุ สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว สัญชาติ ประเทศที่พำนัก ลายมือชื่อ
  2. ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD อื่นๆ เป็นต้น
  3. ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ชื่อหรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น LINE ID
  4. ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการหรือกาประกอบอาชีพ  เช่น ประเภทธุรกิจ  ประเภทอาชีพ  ตำแหน่ง อายุงาน เอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจหรือประกอบอาชีพ
  5. ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม   เลขที่บัญชีเงินฝาก รายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝาก เลขบัตรเครดิต/เดบิต  ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และรายจ่าย  ข้อมูลสำหรับประเมินความเสี่ยง
  6. ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน  หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ และข้อมูลอื่นๆ              
  7. บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับบริษัทที่เกี่ยวข้องการทำธุรกรรมซื้อขาย  รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log/Chat – Bot  ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อดำเนินการตามความยินยอมของท่านและ/หรือเพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ตามแต่ความสัมพันธ์และการทำธุรกรรมของท่าน ดังต่อไปนี้

  1. บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ตัวแทนของบริษัท  ผู้รับจ้างช่วงงานต่อหรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อประกอบธุรกิจแทนบริษัท  ทางการตลาด ส่งเสริมการขาย  การประชาสัมพันธ์  การเสนอหรือสนับสนุนการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน รวมถึงผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ เคลื่อนย้าย และจัดส่งสินค้า ผู้จัดการด้านแคมเปญและการจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการจัดเก็บข้อมูลบนเซอร์เวอร์ที่เชื่อมต่อออนไลน์
  2. บริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของท่านไว้เฉพาะบุคลากร หรือพนักงานของบริษัทที่มีความจำเป็นต้องรับทราบข้อมูลของท่าน เพื่อการให้บริการทางธุรกรรมหรือบริการอำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่าน เพื่อให้ท่านได้รับบริการดังกล่าว อย่างเหมาะสมและดีที่สุดจากบริษัท
  3. บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้ หากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใดๆ หรือต้องคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5 – 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี จัดเก็บไว้ตามกฎหมาย 10 ปี นับแต่ยุติความสัมพันธ์ เป็นต้น

ท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลของท่านที่บริษัทเก็บรักษาไว้หรือขอรับสำเนาข้อมูลได้  
  2. สิทธิให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเอง
  3. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  4. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
  5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว
  6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  7. สิทธิขอถอนความยินยอม  หากท่านได้ให้ความยินยอมให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด

99-101 ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

เปิดทำการ จันทร์ – ศุกร์ : เวลา 9.15 – 16.00 น.

Call Center: 02-017-0777

Gold Trading Hotline: 02-017-0770

Fax Center: 02-222-7100

E-Mail: [email protected]

บริษัทอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของบริษัท ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากท่าน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบาย เวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.methong.co/privacy-policy เพื่อให้ท่านทราบแนวทางที่บริษัทใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม

ME THONG ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่านโยบายเพิ่มเติม